เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘ สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้ ’ กันรึเปล่า ???
ขอบอกให้รู้ไว้เลยว่าประโยคข้างต้นไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด เพราะหากสุขภาพลำไส้มีปัญหาก็อาจส่งผลให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ แถมยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมาอีกมากมาย แต่ถ้าสุขภาพลำไส้แข็งแรง ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขับของเสียและสารพิษไม่ให้ตกค้างสะสมอยู่ภายใน นอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลให้อารมณ์แจ่มใส ไม่ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะท้องผูก และผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสขึ้นด้วย

แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่บางประการ เช่น กินผักผลไม้น้อย / ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย / นอนดึกเป็นประจำ / เกิดความเครียด เป็นต้น ก็อาจส่งผลให้ลำไส้แปรปรวนและมีอาการท้องผูกขึ้นได้ จึงมีการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เข้าไปช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดี เพื่อเสริมสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงและกินง่ายถ่ายคล่องขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
แล้วส่วนประกอบยอดฮิตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยให้ลำไส้สุขภาพดีก็มีอยู่หลายชนิดเลยนะ แต่ที่ได้รับความนิยมมากๆ และหลายคนคงเคยได้ยินจนคุ้นหูก็คือ ‘ Probiotic ’ และ ‘ Prebiotic ’ แต่จริงๆ แล้วจุลินทรีย์ชนิดดีไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้เท่านั้น ปัจจุบันเทรนด์ของ ‘ Postbiotic ’ ก็มาแรงไม่แพ้กัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้ให้มากขึ้นว่า Postbiotic คืออะไร ? และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
Postbiotic คืออะไร ?

พอได้ยินคำว่า ‘ Probiotic ’ / ‘ Prebiotic ’ / ‘ Postbiotic ’ เข้าไป ก็อาจทำให้เกิดอาการสับสนงุนงงขึ้นได้ เพราะสามสิ่งนี้ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัว ‘ P ’ เหมือนกัน แล้วยังออกเสียงคล้ายๆ กันอีกด้วย เราจึงจะมาอธิบายให้เห็นภาพชัดๆ ว่าจุลินทรีย์ชนิดทั้ง 3 ชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร ?
ขอเกริ่นนำให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า ภายในร่างกายของเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ และจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีที่อาจก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ซึ่ง ‘ Probiotic ’ จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีชีวิตและมีขนาดเล็ก สามารถพบได้ในอาหารบางชนิด เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์และปรับสมดุลระบบต่างๆ ของร่างกาย
ส่วน ‘ Prebiotic ’ คือเส้นใยอาหารที่ไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมเองได้ แต่เมื่อเข้าสู่ลำไส้ใหญ่แล้วจะถูกย่อยสลายโดย Probiotic และจะกระตุ้นการเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดี อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ Prebiotic เป็นอาหารของ Probiotic ที่ช่วยเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีด้วย
และตัวสุดท้ายอย่าง ‘ Postbiotic ’ คือสิ่งที่ได้จากกระบวนการย่อยหรือหมักอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดี เวลาที่ Probiotic กิน Prebiotic เข้าไปก็จะย่อยออกมาเป็น Postbiotic ที่ทำหน้าที่เสริมสร้างให้มีปริมาณจุลินทรีย์ชนิดดีมากขึ้น พร้อมเสริมสุขภาพลำไส้ที่แข็งแรง สามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น รวมถึงช่วยดีท็อกล้างสารพิษและเมือกมันที่เกาะอยู่ตามผนังลำไส้ให้ลำไส้สะอาด ไม่มีอุจจาระและสารพิษตกค้าง จึงป้องกันโรคอุจจาระเต็มท้อง, ริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย นี่จึงเป็นคำตอบว่า Postbiotic สามารถช่วยปรับสมดุลลำไส้และแก้ท้องผูกได้จริงนั่นเอง

หรือถ้าใครกำลังมองหาทางเลือกที่ง่าย สะดวก และช่วยเพิ่ม Postbiotic แบบได้ผลดี การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบา อย่าง ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ที่คนที่กำลังเจอปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารและการขับถ่ายห้ามพลาด !!! จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือมีส่วนประกอบครบทั้ง Probiotic จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สายพันธุ์ BC30TM นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ที่มีนวัตกรรม Spore-forming probiotic สามารถทนต่อกรดในน้ำลายและกรดในกระเพาะอาหาร ส่งตรงเข้าปรับสมดุลลำไส้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แล้วยังมี Prebiotic มากถึง 8 ชนิด ได้แก่ Kiwi Fiber, Prune Fiber, Xylo-oilgosaccharides, Acacia powder, Psyllium husk powder, Inulin, Partially Hydrolyzed Guar Gum และ Alfalfa extract ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ พร้อมช่วยเพิ่มการสร้าง Postbiotic ให้มีปริมาณมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมี Plant Enzyme สกัดจากกีวีสีทองและขมิ้นชัน ช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย ฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร ปรับสมดุลระบบการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้ง Super Fruits ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสารต้านอนุมูลอิสระอีกมากถึง 9 ชนิด

‘ HOLISTA ’ บรรจุมาในรูปแบบซองพร้อมชง วิธีรับประทานก็ง่ายและสะดวกมากๆ เพียงแค่รับประทานวันละ 1 ซอง ดื่มก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยฉีกซองเทผลิตภัณฑ์ผสมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 150 – 200 มล. คนให้เข้ากันแล้วดื่มทันที จากนั้นก็ให้ดื่มน้ำเปล่าตามอีก 1 แก้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะช่วยกระตุ้นให้ถ่ายท้องได้ดีในช่วงเช้า ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ฟื้นฟูระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร พร้อมบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอย่างอาการกรดไหลย้อน กรดเกินในกระเพาะอาหาร ท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง รวมทั้งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกับให้กับร่างกาย และต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายด้วย
ที่สำคัญ ‘ HOLISTA ’ ไม่มีส่วนผสมของยาระบาย / ยาถ่าย จึงไม่ปวดบิด ไม่มวนท้อง และไม่ถ่ายพร่ำเพรื่อ รอบเดียวจบ แล้วต่อให้เลิกรับประทานก็ยังถ่ายเองได้แบบไม่ติดยา อีกทั้งผู้สูงอายุ คนเป็นเบาหวานหรือมีโรคประจำตัวสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล

แล้วที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ‘ HOLISTA ’ ใช้สูตร SYNBIOTIC ในการปรับสมดุลร่างกาย ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่มีงานวิจัยจาก USA เลยเป็นแบรนด์เดียว ที่ได้รับความไว้วางใจ จากทั้งคุณหมอและเภสัชกรให้จัดจำหน่ายอยู่ในร้านยา และโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ทั้งร้านยา Healthy Max สาขา รพ.บำรุงราษฎร์, รพ.พระราม9, รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล และร้านเลมอนฟาร์ม, ร้านสบายใจ, ร้านภูมิใจไทย, ร้านชีวิตดี by SCG ทุกสาขา
สรุป
สรุปแล้ว ‘ Postbiotic ’ ก็คือสิ่งที่ได้จากกระบวนการย่อยหรือหมักอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดี ทำหน้าที่เสริมสร้างให้มีปริมาณจุลินทรีย์ชนิดดีมากขึ้น พร้อมทำให้สุขภาพลำไส้แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้สามารถดูดซึมอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ขับถ่ายคล่องขึ้น แล้วยังช่วยปรับสมดุลร่างกายได้อีกด้วยนะ แล้วหากอยากเพิ่ม Postbiotic ให้แก่ร่างกาย ก็สามารถหาได้จากการรับประทานอาหารบางชนิด หรือหาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีทั้ง Probiotic และ Prebiotic มารับประทาน ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณ Postbiotic ได้เช่นกัน
อ้างอิง :